เนื้อหมูไทยส่อวิกฤติ ข้อต่อรองเจรจาการค้าภาษีสหรัฐ กระทบเกษตรกรนับแสนราย โรงชำแหละ เขียงหมู ทำตลาดสูญกว่า 1.12 แสนล้านบาท
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับวงจรตลาดหมูไทย? หากไทยเสนอเปิดตลาดรับเนื้อหมูและเครื่องในจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เนื้อหมูและเครื่องใน เป็นหนึ่งในรายการสินค้าเกษตรอันดับต้นๆ ที่ถูกนำมาใช้ต่อรองเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ หลังจากในวันที่ 7 ก.ค. 2568 สหรัฐได้ประกาศใช้อัตราภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ฉบับใหม่ โดยไทยโดนเก็บ 36% มีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. 2568
ทั้งนี้ สหรัฐมีแนวโน้มกดดันให้ไทยนำเข้าเนื้อหมูและเครื่องในที่ Made in USA เนื่องจากเป็นรายการสินค้าเกษตรเข้าข่ายที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative: USTR) ได้ประเมินไว้ให้ไทยต้องเปิดตลาดและเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐมากขึ้น ด้วยเหตุที่ไทยเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากสหรัฐสูง ในขณะที่ไทยนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐในสัดส่วนน้อย
อย่างไรก็ตาม หมูสหรัฐมีความโดดเด่นในด้านการผลิตระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าไทย ขณะที่ศักยภาพหมูสหรัฐที่แข็งแกร่งและมีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้สหรัฐสามารถขายหมูได้ในราคาต่ำ โดยในช่วงปี 2563-2567 ราคาขายหมูสหรัฐเฉลี่ยที่ 1.7 ดอลลาร์ต่อกก. ขณะที่ราคาขายหมูไทยเฉลี่ยที่ 2.3 ดอลลาร์ต่อกก.
สำหรับเนื้อหมูและเครื่องในราคาถูกจากสหรัฐที่จะทะลักเข้ามายังไทย จะกระทบต่ออุตสาหกรรมหมูไทยที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) เป็นหลัก ซึ่งแต่ละผู้เล่นต่างมีความเชื่อมโยงและจะกระทบต่อเนื่องกันเป็น Domino Effect ดังนี้
เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู จำนวน 1.49 แสนราย ที่เกือบทั้งหมดเป็นรายย่อยกว่า 97% จะได้รับผลกระทบโดยตรงให้ว่างงานและขาดรายได้ ซ้ำเติมเดิมที่ผู้เลี้ยงลดลงไปแล้วกว่า 21% ในช่วงปี 2564-2567 จากภาวะขาดทุนสะสมจนต้องเลิกกิจการไปเกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์อย่างรำสด ข้าวโพด ปลายข้าว (วัตถุดิบหลักในประเทศที่ใช้เลี้ยงหมู) รวมราว 5 ล้านครัวเรือน จะมีผลผลิตเหลือ และกดดันราคาให้ตกต่ำ กระทบรายได้เกษตรกรกลุ่มนี้ให้ลดลงโรงชำแหละ อาจถูกตัดวงจรขั้นตอนนี้ไป จนต้องเลิกกิจการในที่สุดเขียงหมู ถูกกดดันรายได้บางส่วนจากเนื้อหมูและเครื่องในหมูสหรัฐที่ทำการแยกชิ้นส่วนสำเร็จพร้อมบริโภคมาบ้างแล้วมูลค่าตลาดเนื้อหมูไทยคาดสูญเสียเบื้องต้นราว 112,330 ล้านบาท ในกรณีที่ไทยเปิดตลาดให้เนื้อหมูสหรัฐเข้ามาอย่างเสรี 100% ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวยังไม่นับรวมความสูญเสียในกรณีที่ไทยนำเข้าเครื่องในหมูด้วยผู้บริโภคและร้านอาหาร แม้จะสามารถซื้อเนื้อหมูและเครื่องในหมูสหรัฐได้ในราคาถูก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตอาหารได้ แต่ในระยะยาว สารเร่งเนื้อแดงในหมูสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคอาจเกิดอาการข้างเคียงต่อสุขภาพได้หลากหลาย