
รพ.ศุภมิตรจัดแคมเปญใหญ่ผ่าตัดต้อกระจก 100 ดวงตา ตั้วเป้าคนไทยไร้ท่อกระจก
นายเมธ โชคชัยชาญ ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้โครงสร้างประชากรของไทยก้าวเข้าสังคมของผู้สูงอายุแล้ว ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2566 มีประชากรผู้สูงอายุถึง 13 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประเทศ และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีประชากรผู้สูงอายุถึง 28% ก้าวสู่ Super–Aged Society อย่างเต็มตัว
การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุย่อมนำมาซึ่งโรคที่เกิดจากความชรา โดยเฉพาะโรคต้อกระจกซึ่งเป็นโรคความเสื่อมของผู้สูงอายุทุกคน ต้อกระจกจะทำให้ระดับของการมองเห็นลดลงจนเป็นอุปสรรคของการดำรงชีวิตปกติ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคนยากจนในชนบทที่ห่างไกลอาจจะเข้าถึงบริการได้ยาก ต้องใช้เวลาความพยายามสูง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และอาจต้องรอคอยหลายเดือนหรือเป็นปีกว่าจะได้รับการรักษา

ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลศุภมิตรจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว ที่กระทบการมองเห็นและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะโรคต้อกระจกที่เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ โรงพยาบาลศุภมิตรจึงคิดริเริ่มโครงการ 100 ดวงตา 35 ปี ศุภมิตร โดยเป็นกิจกรรมสำคัญในโอกาสครบรอบ 35 ปี โรงพยาบาลศุภมิตร ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีโอกาสช่วยประชาชนไทยปลอดตาบอดจากต้อกระจกได้
โครงการนี้เป็นการผ่าตัดรักษาต้อกระจก ให้แก่ผู้ป่วยผู้ยากไร้และขาดโอกาสในการรักษาจากข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่าย จำนวน 100 ดวงตา โดยทีมจักษุแพทย์โรงพยาบาล (เงื่อนไขเป็นไปตามที่รพ. กำหนด) ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลในการเดินหน้าตามแนวคิด “คนไทย ไร้ต้อกระจก” ประเทศไทย ปลอดตาบอดจากต้อกระจก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโรงพยาบาลศุภมิตร ได้มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านการรักษาต้อกระจก ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เลือกสรรนวัตกรรมและเครื่องมือที่ดีเพื่อความแม่นยำและปลอดภัย และการบริการด้วยหัวใจดูแลด้วยความเอาใจใส่ อบอุ่น และเข้าใจพร้อมรับส่งทั่วประเทศไทย รวมถึงที่พักของญาติที่มากับผู้ป่วย ด้วยคุณภาพระดับสูงยึดมั่นในความปลอดภัยสูงสุดและมาตรฐานสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากการผ่าตัด ต้อกระจก จากสถานบัน AACI จากสหรัฐอเมริกา
“โรงพยาบาลศุภมิตร ได้รักษาผู้ป่วยด้าน โรคต้อกระจก มาแล้วกว่า 3 แสนดวงตา มีจุดให้บริการผ่าตัดดวงตา 5 แห่ง ภาคเหนือที่ลำพูน ภาคใต้ที่ตรัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สกลนคร และนครราชสีมาและมีหน่วยบริการคัดกรองทั่วประเทศ จึงทำให้เรามีประสบการณ์การรักษาด้านดวงตามาอย่างยาวนาน มีเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัย จึงมีความมุ่งมั่นที่จะขจัดโรคต้อกระจกให้หมดไปจากประเทศไทย”