
จับตาวาระประชุมกพช.พรุ่งนี้ ลุยโซลาร์ชุมชน – ตั้งบอร์ดพีดีพีใหม่ หวังให้เกิดได้ภายใน 4 เดือนตามควิก บิ๊ก วิน
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 27 ต.ค. จะประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. วาระสำคัญในการประชุมกพช. การอนุมัติหลักการตามนโยบายควิก บิ๊ก วิน ด้านพลังงานของรัฐบาล เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ หลังจากที่ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจได้พิจารณาแผนงานของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะนำไปสู่การลดค่าครองชีพให้กับประชาชน การสร้างรายได้ให้ชุมชน และการเตรียมความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ไปแล้ว
สำหรับโครงการต่างๆ ที่คาดว่า จะนำเสนอเข้าที่ประชุมกพช. เช่น โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน ที่ตั้งเป้าจะดำเนินการทั้งหมด 1,500 เมกะวัตต์ เดิมโครงการดังกล่าวจะให้กับรายใหญ่เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ แต่ตอนนี้กระทรวงฯจะดึงออกมาเพื่อทำเป็นโซลาร์ฟาร์มชุนชน ซึ่งจะกระจายไปแต่ละชุมชนทั่วประเทศ โดยโครงการดังกล่าวภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการจะดำเนินการร่วมกับชุมชนในการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มในพื้นที่ชุมชน ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะจำหน่ายให้กับชุมชนในราคาที่ถูกลง ส่วนที่เหลือก็อาจจะเป็นการขายเข้าสู่ระบบ เพราะฉะนั้นเอกชนก็จะมีผลประกอบการ และกำไรส่วนหนึ่ง ซึ่งจะต้องนำมาแบ่งให้กับชุมชน
ภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุน หลังจากนั้นก็นำไฟฟ้าที่ได้มาขายให้กับประชาชนในราคาถูก และขายเข้าสู่ระบบ ซึ่งก็จะทำให้เกิดรายได้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายเหลือก็คืนให้กับชุมชน ประชาชนได้รับค่าไฟที่ถูกลง และส่วนแบ่งรายได้มาดูแลชุมชน โดยแต่ละชุมชุมจะได้ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ เพราะฉะนั้นก็จะสามารถกระจายไปได้ในชุมชนที่มีความพร้อม โดยโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน เป้าหมายรวม 1,500 เมกะวัตต์ จะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 30,000 ล้านบาท สร้างงานกว่า 1,700 ตำแหน่ง และขายไฟฟ้าให้ชุมชนใกล้เคียงผ่านกฟภ.ด้วยราคาส่วนลดประมาณ 80 สตางค์ต่อหน่วย อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้เกือบ 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ อีก เช่น โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เตรียมดำเนินการทั้งหมด 1,200 ระบบ ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 5,800 บาทต่อไร่ต่อปี
โครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ไม่เกิน 2 แสนบาท คาดว่าจะเกิดเม็ดลงทุนกว่า 10,800 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 450 ตำแหน่ง ลดการปล่อย CO2 ได้ 280,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
โครงการส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับหน่วยงานของรัฐ คาดว่าภาครัฐจะสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ของตนเองได้ และอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลง จะทำให้สามารถลดภาระงบประมาณค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) ได้กว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี
ส่วนวาระ Direct PPA สำหรับ Data Center ที่ กพช.เคยมีมติเห็นชอบในหลักการให้เปิดให้เอกชนทำสัญญา Direct PPA นำร่องที่ปริมาณไฟฟ้า 2,000 เมกะวัตต์ เพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างกิจการไฟฟ้าของไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นแบบ Enhanced Single Buyer Model (ESB) โดยให้การไฟฟ้าเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าเพียงรายเดียวไปแล้ว นั้น จะมีการรายงานความคืบหน้า ในประเด็นที่แต่ละหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่ต้องไปจัดทำอัตราค่าบริการการใช้และเชื่อมต่อระบบ
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานจะมีการเสนอให้ กพช. แต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศชุดใหม่ เป็นผู้จัดทำแผน หลังจากที่ประธานคณะกรรมการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธาน กพช.คนก่อนได้ยื่นหนังสือลาออก หรือจะทบทวนมติ กพช. เพื่อกลับไปใช้กระบวนการจัดทำแผน แบบเดิมที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะอนุกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยอยู่ภายใต้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยมีความเป็นไปได้สูงว่า จะเป็นการทบทวนมติเดิม เพื่อให้การจัดทำแผนPDPฉบับใหม่ ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน