ททท.เปิดเหตุผลดึง "ลิซ่า"ศิลปินไอคอนระดับโลกเป็น‘Amazing Thailand Ambassador’ มั่นใจดึงต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่มอีก 5-10 ล้านคน สร้างรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเซ็นสัญญากับบริษัท ลาวด์ (LLOUD) ที่มี “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล”เป็นเจ้าของ เพื่อเป็นแอมบาสเดอร์ของททท.ภายใต้ชื่อ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์” (Amazing Thailand Ambassador) เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำคุณภาพสูง และสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ด้วยการดึงศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากขึ้น

ทั้งนี้เหตุผลสำคัญที่ททท.เลือกลิซ่าเป็นตัวแทนของประเทศไทย เพราะลิซ่าเป็นศิลปินไอคอนระดับโลก มีผลงานและความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราจึงเชื่อมั่นว่าแอมบาสเดอร์มีอิทธิพลต่อการสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก โดยก่อนหน้านี้ ททท.มีการใช้พรีเซนเตอร์และเคโอแอล มากมาย แต่ในปีหน้าเราอยากจะดึงศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเพิ่มการมองเห็นประเทศไทยมากขึ้น

น.ส. ฐาปนีย์ กล่าวว่า “ลิซ่า” จะเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์โปรโมตการท่องเที่ยว นำส่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยจุดมุ่งหมายคือมุ่งยกระดับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยสู่จุดหมายปลายทางคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และนำเสนอสินค้าเสน่ห์ไทย

สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับนั้น เมื่อพิจารณาจากฐานผู้ติดตามอินสตาแกรมของลิซ่า ซึ่งมีมากกว่า 106 ล้านราย มียอดเอนเกจเมนต์สูงมาก จึงคาดว่าน่าจมีการเผยแพร่ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยสู่โลกออนไลน์จำนวน 1,000 ล้านคน-ครั้ง และในจำนวนนี้ น่าจะมี 10% หรือประมาณ 100 ล้านคน-ครั้ง ที่ต้องการทำตามลิซ่า หรืออยากมาไทยเหมือนลิซ่า โดยเชื่อว่าจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยได้จริง 5-10 ล้านคนในปี 2569 และช่วยสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 250,000 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากนักท่องเที่ยวที่เป็นระดับไฮเอนด์ หรือมีการใช้จ่ายอย่างน้อยทริปละ 50,000 บาท และยังสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้าเป็นไปตามเป้าหมาย และมีส่วนผลักดันให้รายได้รวมการท่องเที่ยวแตะระดับ 3 ล้านล้านบาทในปี 2569 เท่ากับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด

“ลิซ่าเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับลูกชิ้นยืนกิน เมนูขึ้นชื่อของ จ.บุรีรัมย์ รวมถึงการโพสต์รูปบนอินสตาแกรม สวมผ้าซิ่นเที่ยววัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงร็อกสตาร์ (Rockstar) สามารถดึงนักท่องเที่ยวมาย่านเยาวราชซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำในการถ่ายทำ และทำให้ททท.สามารถต่อยอดกระแสการเดินทางไปยังตลาดน้อย ทรงวาด เฟื่องนคร และบรรทัดทอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังบริเวณข้างเคียง โดยไม่กระจุกอยู่ย่านใดย่ายหนึ่งได้สำเร็จ”

ขณะเดียวกัน ลิซ่า สามารถสร้างมูลค่าสื่อที่ได้รับ หรือ Earned Media Value สูงมากๆ เช่น งานของแบรนด์ซีลีน มีมูลค่าสื่อสูงถึง 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ททท.จึงคาดหวังว่าเมื่อเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาออกไปแล้ว จะช่วยขยายผลไปยังนักท่องเที่ยว และฐานแฟนคลับลิซ่าทั่วโลก จากบทบาทของลิซ่าในการเชื่อมโยงต้นทุนวัฒนธรรม อาหาร การท่องเที่ยวและบริการได้เป็นอย่างดี อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง ไวท์ โลตัส ร่วมสร้างเอนเกจเมนต์สูงมาก ทำให้เกาะสมุย กลายเป็นเดสติเนชันที่ได้รับความนิยม มียอดจองการเดินทางเข้าสมุยมาก

ผู้ว่าททท. กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการนี้จะมีระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2568 – 29 ก.ย. 2569 โดยลิซ่าจะร่วมแสดงในภาพยนตร์โฆษณา (TVC) จำนวน 1 ชิ้นงาน ความยาว 60 วินาที โดย ททท.สามารถนำไปตัดลงเป็น 30 วินาที,15 วินาที และเทรลเลอร์ 30 วินาที จำนวนรวม 4 ชิ้นงาน รวมถึงการถ่ายภาพนิ่ง จำนวน 12 ภาพ โดยเชื่อว่าจะเปิดตัวคาดเปิดตัว TVC ได้ในเดือน ม.ค.2569 คอนเซ็ปต์จะล้อไปกับทิศทางสื่อสารการตลาดของ ททท. “Unforgettable Experience: Healing is The New Luxury” เน้นนำเสนอภาพของการพักกายพักใจในประเทศไทยหลังทำงานหนัก เพื่อเติมพลังอีกครั้ง

นอกจากนี้จะจัดงานเอ็กซ์คลูซีฟ อีเวนต์ 1 งานในปลายเดือน ม.ค. ซึ่งจะมีการเปิดให้แฟนคลับเข้าร่วมงานนี้ด้วย โดยเบื้องต้นจะเลือกสถานที่ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ในเขตกรุงเทพฯ และททท.จะผลิตสินค้าของที่ระลึก (Merchandise) ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ด สำหรับแจกฟรีในกิจกรรมทางการตลาดของ ททท.ด้วย