ประชาชน-ธุรกิจไม่เชื่อมั่นศก. ทุบดัชนีต่ำสุด 30 เดือน โดนการเมืองในประเทศ-ขัดแย้งเขมร-ภาษีสหรัฐ ถล่ม

2025-08-08    HaiPress

การเมืองในประเทศ-ขัดแย้งเขมร-ภาษีสหรัฐ ทำคนไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจ ฉุดดัชนีต่ำสุดรอบ 30 เดือน ตอกย้ำเศรษฐกิจไทยยังซึมตัว จี้รัฐเร่งกระตุ้นต่อเนื่อง หวังปีนี้โตได้ 2%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ค. 68 ว่า ดัชนีทั้ง 2 รายการลดลงทุกรายการต่อเนื่อง โดยดัชนีหอการค้าไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และดัชนีผู้บริโภค ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 31 เดือนนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นมา ชี้ให้เห็นว่า ดัชนีอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากผู้ประกอบการ และผู้บริโภคมีกังวลเสถียรภาพของรัฐบาลและการเมืองของไทย,กังวลสงครามการค้าจากนโยบายภาษีของสหรัฐ,ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา แม้เจรจาหยุดยิงแล้วแต่สถานการณ์ยังไม่จบ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ยังจำกัดวง ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง จึงไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นมากนัก

ทั้งนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 2 ครั้งรวม 0.5% มาอยู่ที่ 1.75% แต่ก็ยังมีความกังวลว่า เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้าและเข้าถึงสินเชื่อลำบาก

“ดัชนีเชื่อมั่นเดือน ก.ค. มีสัญญาณของบวกและลบเจือกัน ปัจจัยที่มีน้ำหนักมากที่สุด คือ เสถียรภาพของรัฐบาลและการเมืองในประเทศ เพราะไม่มั่นใจว่า จะลุกลามบานปลายจนถึงยุบสภาหรือไม่ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ถ้ายุบสภา การพิจารณางบประมาณปี 69 ล่าช้า และไม่สามารถใช้งบได้ทันเดือน ต.ค. 68 ส่วนการปะทะกับกัมพูชา แม้คลี่คลายเร็ว เพราะมีการหยุดยิง และเข้าสู่การเจรจาคณะกรรมการชายแดน (จีบีซี) แต่ก็ยังกังวลว่า อาจปะทุขึ้นมาได้อีก แต่ยังมีข่าวดีเรื่องภาษีตอบโต้ ที่ไทยถูกเก็บ 19% ถ้าไม่มีข่าวดีเข้ามา ความเชื่อมั่นจะลดลงมากกว่านี้”

ส่วนผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ทำให้เห็นว่า โดยรวมกำลังซื้อ ประชาชนไม่โดดเด่น เพราะดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว และทำธุรกิจของเอสเอ็มอี ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 30 ปีโดยเฉลี่ย อีกทั้งเศรษฐกิจยังมีสัญญาณซึมตัว และยังต้องการกระตุ้น โดยศูนย์ฯ ยังคงเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ 1.7% เศรษฐกิจยังเศรษฐกิจมองว่าเศรษฐกิจจะโตได้ 1.7% แต่ก็มีโอกาสโตได้ 1.5% หรือ 2% ได้เช่นกัน

“ขึ้นอยู่กับว่า ความขัดแย้งกัมพูชาจบเร็วแค่ไหน เพราะการปิดด่าน ทำให้การค้าไทยเสียหายเดือนละกว่า 10,000 ล้านบาท ถ้ายืดเยื้อ ความเสียหายจะยิ่งเพิ่มขึ้น และใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ และเปิดด่านชายแดนจนครบทุกด่าน ต่อมาคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐมีผลในเชิงบวกมากแค่ไหน เพราะขณะนี้ เศรษฐกิจไทยยังต้องการการกระตุ้นจากรัฐบาล หากอัดฉีดเข้าระบบเป็นระยะๆ ก็อาจทำให้เศรษฐกิจโตใกล้เคียง 2% หมายความว่าเศรษฐกิจจะโตใกล้เคียง 2%”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

ลิงค์ที่เป็นมิตร

Back to top
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 เครือข่ายชีวิตไทย      ติดต่อเรา   SiteMap